ย่อ / ขยาย

คณะผู้แทนกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เข้าพบและหารือกับคณะกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เพื่อประเมินภาวะเศรษฐกิจไทย ประจำปี 2561

p1c8ujvrkpoh31pdu5e21j40114d4.jpg
p1c8ujvrkq9vu1k3p1mqa86412975.jpg
p1c8ujvrkq6ao1vnc1hkk1s4tv036.jpg
p1c8ujvrkq87p762jpl1d8g1fb97.jpg
p1c8ujvrkq14l6gqd1bh52uo52n8.jpg
p1c8ujvrkq9rr1d57ck617p2fnb9.jpg
p1c8ujvrkqbbo1l0t1f8r6601df1a.jpg
p1c8ujvrkr1fus1fqdljq87bej3b.jpg
p1c8ujvrkr14mtmjbqbvve4i2c.jpg

    

    

คณะผู้แทนกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)  เข้าพบและหารือกับคณะกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โดยมีนายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการฯ ให้การต้อนรับ เพื่อประเมินภาวะเศรษฐกิจไทย ประจำปี 2561 โดยคณะกรรมการได้ให้ข้อมูลและมุมมอง ถึงสถานการณ์เศรษฐกิจประเทศไทย ว่าในขณะนี้มีการฟื้นตัว มีความเชื่อมั่นมากขึ้น  สะท้อนได้จากการส่งออกและการท่องเที่ยวที่มีการขยายตัวต่อเนื่อง ภาครัฐมีการพัฒนา Ease of Doing Business ต่างๆ เช่น การจดทะเบียนธุรกิจ e- Government กิโยติน Project เป็นต้น ซึ่งรัฐบาลให้ควาสำคัญในการขจัดอุปสรรคต่าง ๆ ในการดำเนินธุรกิจ ส่งผลให้อันดับความยาก-ง่าย ในการทำธุรกิจของไทยปรับตัวดีขึ้นเป็นลำดับ นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้มีการจัดทำโครงการ Internet ประชารัฐ โดยลงทุนวางโครงข่ายอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงไปในทุกหมู่บ้าน ซึ่งจะเป็นการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงข้อมูล สนับสนุนให้เกิด e-Commerce เพื่อการทำธุรกิจของประชาชนในทุกระดับการลงทุนของภาครัฐจะเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนและกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานจำนวนมาก เพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะโครงการ EEC ทำให้เกิดการลงทุนด้านอุตสาหกรรมแห่งอนาคต  ทำให้มีความเชื่อมั่นของนักลงทุนมากขึ้น รวมทั้งมีการเชื่อมโยงกับประเทศใน ASEAN และ One Belt one Road เป็นไปได้ด้วยดีทั้งการค้าชายแดนข้ามแดน และ โครงสร้างพื้นฐานที่เชื่อมโยงกัน มีการเข้าไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น

Other News