คุณอดิศร์ กฤษณวงศ์ ประธานคณะกรรมการธุรกิจปศุสัตว์และแปรรูป พร้อมด้วยคุณณัฐกานต์ พันธ์ชัย รองประธานฯ คุณสุนันทา เลิศสินไทย กรรมการและเลขานุการ คุณณัฐวิทย์ พิมพ์พัทเลิศ ผู้ช่วยรองประธานฯ และทีมฝ่ายเลขานุการสายงานเกษตรและอาหาร สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย คุณอรรควัฒน์ วิริยะขจรเกียรติ ประธานวิสาหกิจชุมชนโคเนื้อลำตะคอง เข้าพบ คุณประภาส ภิญโญชีพ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์และคณะฯ เพื่อหารือการขับเคลื่อนเกษตรกรและอุตสาหกรรมโคเนื้อ กลุ่มจังหวัดนครชัยบุรินทร์ โดยกล่าวถึงการดำเนินงานที่ผ่านมาของคณะกรรมการธุรกิจปศุสัตว์และแปรรูป และการขับเคลื่อนในอนาคต
โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. การพัฒนาห่วงโซ่การผลิตโคเนื้อให้มีประสิทธิภาพ อาทิ ต้องมีมาตรฐานสายพันธุ์ที่ตรงตามที่ตลาดต้องการและคัดเลือกสายพันธุ์อย่างเหมาะสม มีจำนวนแม่พันธุ์เหมาะสมเพียงพอ เพื่อสามารถวางแผนนำน้ำเชื้อพ่อพันธุ์สายพันธุ์แท้เข้าผสม ให้ได้สายพันธุ์ลูกที่ตลาดต้องการ , อาหารสัตว์ต้องมีแปลงหญ้าที่มีคุณภาพและเพียงพอ/อาหารข้น/อาหาร TMR , สามารถส่งเสริมให้เกษตรกรแยกอาชีพเลี้ยงโคในแต่ละช่วงได้ , การมีระบบ Data Link เชื่อมโยงข้อมูลการเลี้ยง การผลิตและการตลาดโคเนื้อทั้งระบบ ทั้งนี้ เพื่อลดปัญหา Supplyไม่สม่ำเสมอในปัจจุบันจากจำนวนโคเนื้อคุณภาพดีมีไม่เพียงพอ
2. ภายหลังการประชุม ครม.สัญจร เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2567 กลุ่มนครชัยบุรินทร์ เสนอโครงการส่งเสริมและสร้างศูนย์กลางอุตสาหกรรมโคเนื้อครบวงจร วงเงินรวม 131,600,000 บาท โดยนำไปใช้สร้างห้องตัดแต่งเนื้อโค มาตรฐาน GMP/Halal/HACCP และอบรมอาชีพผู้ตัดแต่งเนื้อ (Butcher) ในพื้นที่อุทยานวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (50,000,000 บาท) , ฟาร์มโคขุนต้นแบบระดับอำเภอ จ.บุรีรัมย์(20,000,000 บาท) , สร้างห้องบ่มและห้องตัดแต่งมาตรฐาน GMP เพื่อเพิ่มศักยภาพการเลี้ยงโคเนื้อคุณภาพสูงในกลุ่มจังหวัดนครชัยบุรินทร์ ในพื้นที่ จ.สุรินทร์ (51,600,000 บาท) บริหารจัดการโดยองค์การบริหารส่วนตำบลสลักได จ.สุรินทร์ , ฟาร์มโคขุนต้นแบบระดับอำเภอ จ.ชัยภูมิ (10,000,000 บาท)
3. ปัญหาจำนวนโคเนื้อเข้าเชือดไม่เพียงพอจากการบริหารกิจการโรงเชือด เช่น โรงเชือดโคเนื้อ มทส. ที่ต้องการโคเข้าเชือด 80 ตัว/เดือน ถึงจะคุ้มทุน (ปัจจุบันมีเพียง 40 ตัว/เดือน) เนื่องจากติดปัญหาไม่มีผู้รับซื้อเครื่องในโค ในเรื่องนี้ รองอธิบดีประภาส รับไปหารือผู้รับซื้อเครื่องในโครายใหญ่เพื่อบริโภคในประเทศซึ่งยังต้องนำเข้าจากต่างประเทศเพราะขาดผู้รวบรวมจากโรงเชือดในประเทศ และขอให้คุณอรรควัฒน์ เป็นตัวกลางประสานงานและรวบรวมเครื่องในโคจากโรงเชือดโคเนื้อรายใหญ่ในพื้นที่ เช่น มทส. , สลักได
4. ปัจจุบันทางกลุ่มวิสาหกิจโคเนื้อลำตะคอง มีโคพร้อมขายเฉลี่ยเดือนละ 8 ตัว มีแผนเพิ่มเป็น 12 ตัว ในครึ่งปีแรกของปี 68 และเพิ่มเป็น 18 ตัวในช่วงต่อไป ปัจจุบันสมาชิกกลุ่มที่เลี้ยงโคแม่พันธุ์อยู่ที่ อ.ประทาย 1200 ตัว อ.หนองหงษ์ 300 ตัว อ.สีคิ้ว 400 ตัว อ.แสลงพันธุ์ 200 ตัว กลุ่มดงย่อ 250 ตัว และวัวสำรองในระบบอีก 150 ตัว ซึ่งนอกจากจำนวนแม่โคลูกผสมจะมีไม่เพียงพอแล้ว เมื่อผสมพันธุ์โคแล้วยังได้ลูกโคทั้งเพศผู้และเพศเมีย กลุ่มฯจึงมีแนวคิดใช้น้ำเชื้อแยกเพศผู้
5. สำหรับงบประมาณ กลุ่มฯได้เสนอโครงการกู้เงินจากกองทุนฯ FTA กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ปัจจุบันโครงการอยู่ระหว่างพิจารณาของกรมปศุสัตว์ และจะขอปรับลักษณะโครงการโดยยังไม่ทำโรงงานผลิตอาหารโคและลดวงเงินเหลือ 23.01 ล้านบาท เพื่อนำไปขยายปริมาณการเลี้ยงของสมาชิกกลุ่มฯ โดยเฉพาะจำนวนแม่พันธุ์และอาชีพเลี้ยงโครุ่น
6. กรมปศุสัตว์รับจะปรับกฎหมายการห้ามฆ่าโคตัวเมียให้สามารถทำได้ เพื่อให้สอดคล้องกับจำนวนโคตัวเมียที่มีมากขึ้นรวมทั้งลูกจากแม่โคนม และลดการลักลอบฆ่าของเกษตรกร
7. นำเสนอการเข้าร่วมจัดแสดงเนื้อโคขุนไทยคุณภาพเยี่ยมในงาน Thailand Food Travel Mart 2024 ในช่วงวันที่ 22-24 พ.ย. 2567 นี้ ที่ Phoenix ประตูน้ำ
Next Step
1. กรมปศุสัตว์รับไปหารือผู้นำเข้าเครื่องในโคให้มาใช้ของในประเทศก่อน โดยมอบหมายคุณอรรควัฒน์ ประสานงานและรวบรวมเครื่องในโคเนื้อจากในพื้นที่
2. คณะกรรมการธุรกิจปศุสัตว์และแปรรูป โดยคุณอดิศร์ กฤษณวงศ์ ประธานฯ จะติดตามการดำเนินงานต่างๆเพื่อส่งเสริมเกษตรกรโคเนื้อ รวมถึงประสานงานประธานหอการค้าจังหวัด ปศุสัตว์จังหวัดสนับสนุนการเก็บข้อมูลโคเนื้อตามแบบฟอร์มที่ได้ออกแบบไว้
3. คณะกรรมการธุรกิจปศุสัตว์และแปรรูป จะประสานกับสมาคมภัตตาคารไทยในฐานะผู้จัดงาน Thailand Food Travel Mart 2024 เพื่อให้วิสาหกิจชุมชนโคขุนลำตะคองและ Max Beef เข้าร่วมในนามของสมาคมโคเนื้อแห่งประเทศไทย