วันที่ 3-4 พฤษภาคม 2567 คุณชูศักดิ์ ชื่นประโยชน์ รองประธานกรรมการ หอการค้าไทย และประธานคณะกรรมการเพิ่มมูลค่าพืชเกษตร พร้อมด้วย คุณอดิศร์ กฤษณวงศ์ กรรมการบริหาร หอการค้าไทย และประธานคณะกรรมการธุรกิจปศุสัตว์และแปรรูป คุณสมชาติ พงคพนาไกร กรรมการ หอการค้าไทย คุณพิษณุ มิลินทานุช รองประธาน คุณมงคล จุลทัศน์ ประธานหอการค้าจังหวัดอุบลราชธานี ตลอดจนหน่วยงานภาคีเครือข่ายภาครัฐ เอกชน และเกษตรกร ได้ร่วมประชุมหารือแนวทางการส่งเสริมเกษตรมูลค่าสูงในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ณ วิสาหกิจชุมชนเกษตรแปลงใหญ่ นาเยีย อ.นาเยียร์
จ.อุบลราชธานี มีพื้นที่เกษตรกรรมกว่า 5.9 ล้านไร่ ปลูกข้าวมากที่สุด (4.2 ล้านไร่) รองลงมา ได้แก่ มันสำปะหลัง ยางพารา และปลานิล มีสินค้าที่ได้รับการรับรอง GI ได้แก่ ข้าวหอมมะลิอุบลราชธานี ในปี 2567 จังหวัดมีแผนที่จะขับเคลื่อนเกษตรมูลค่าสูงด้วย 2 โครงการ ได้แก่ 1) โครงการขับเคลื่อนการเกษตรระดับหมู่บ้านสู่การผลิตสินค้าเกษตรมูลค่าสูง 2) โครงการ 1 ท้องถิ่น 1 สินค้าเกษตรมูลค่าสูง อย่างไรก็ดี ต้องมีการพัฒนาเพื่อผลิตสินค้าเกษตรมูลค่าสูง อาทิ การพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร การสนับสนุนเครื่องจักรกล จัดหาแหล่งทุนดอกเบี้ยต่ำ เพิ่มช่องทางการขาย และตลาดรับซื้อที่ชัดเจน
วิสาหกิจชุมชนเกษตรแปลงใหญ่ นาเยีย เป็นหนึ่งในกลุ่มที่สยามคูโบต้าให้การสนับสนุนและส่งเสริม ภายใต้โครงการ “คูโบต้าร่วมมือ เกษตรร่วมใจ” ที่มุ่งพัฒนาให้เป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่เข้มแข็ง เป็นต้นแบบการบริหารจัดการเครื่องจักรแบบรวมกลุ่ม มีสมาชิก 52 ราย พื้นที่ปลูกข้าวรวม 1,200 ไร่ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน GAP และ Organic Thailand อีกทั้งกลุ่มฯ ยังปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังนา ถั่วเขียว ถั่วลิสง งาดำเป็นพืชเสริม และแปรรูปข้าวเพื่อเพิ่มมูลค่า ด้านอุปสรรคในการดำเนินงาน อาทิ เข้าไม่ถึงไฟฟ้าแรงสูง ทำให้เทคโนโลยีที่มีไม่สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ, ลานตากข้าวไม่เพียงพอ, ขาดเทคโนโลยีกำจัดมอด (แบบไม่ใช้สารเคมี), ต้องการองค์ความรู้ในการทำตลาดออนไลน์, การเข้าถึงแหล่งน้ำ และเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย เป็นต้น
Modern Trade อาทิ ท็อปส์ มีช่องทางตลาดจริงใจที่จะช่วยเหลือส่งเสริมและสนับสนุนชุมชน สร้างรายได้และความเป็นอยู่ที่ดีมากขึ้น โดยสินค้าข้าวของกลุ่มฯ นั้น สามารถนำไปวางขายได้ ยินดีช่วยประสานงานให้
หอการค้าจังหวัดอุบลราชธานี มีแผนที่จะดำเนินการยกระดับเกษตรมูลค่าสูง (Product Champion) ได้แก่ โคเนื้อนิลอุบล และข้าวหอมมะลิอุบลฯ พร้อมทั้งจะช่วยรับซื้อสินค้าจากพี่น้องเกษตรกรเพื่อเป็นของฝากให้แก่ลูกค้า โดยจะประสานความร่วมมือกับกลุ่มเซ็นทรัลและสมาชิกหอการค้าจังหวัด
นอกจากนี้ คณะฯ ได้ลงพื้นที่เยี่ยมชมฟาร์มเลี้ยงโคขุนกลุ่มนิลอุบลต้นแบบ ณ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนนาโพธิ์ อ.พิบูลมังสาหาร และแปลงเกษตรต้นแบบ ณ สวนทุเรียนแม่น้ำมูล อ.สว่างวีระวงศ์ พร้อมให้คำแนะนำในการพัฒนาสู่การสร้างเกษตรมูลค่าสูงอย่างยั่งยืน
