วันที่ 30 เมษายน 2567 หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ได้จัดการประชุมหารือความร่วมมือแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตรของประเทศไทยอย่างยั่งยืน ร่วมกับสมาคมการค้าที่เกี่ยวข้องกับเกษตรและอาหาร อาทิ สมาคมผู้ค้าปลีกไทย สมาคมอุตสาหกรรมทูน่าไทย สมาคมการค้าอาหารสัตว์เลี้ยงไทย สมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย สมาคมโรงแรมไทย สมาคมภัตตาคารไทย สมาคมเชฟประเทศไทย และห้างค้าปลีก-ค้าส่งสมัยใหม่ (Modern Trade) เพื่อแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตรของประเทศไทยอย่างยั่งยืน
ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการ คนที่ 1 หอการค้าไทยและสภาหอการค้า แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าภาคเกษตรถือเป็น Core Value Chain ที่มีความสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากภาคเกษตรไทยมีความเกี่ยวข้องกับประชากรทั้งประเทศ และมีสัดส่วนครัวเรือนในภาคเกษตรไทยถึง 1 ใน 3 ของครัวเรือนทั้งหมด อย่างไรก็ตาม สินค้าเกษตรยังต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนในด้านรายได้ ผลผลิต และคุณภาพ ด้วยปัจจัยภายในและภายนอกที่ควบคุมไม่ได้ อาทิ ความผันผวนของสภาพอากาศ ปัญหาภัยแล้ง โรคระบาดในสัตว์บก สัตว์น้ำ รวมไปถึงโรคระบาดในพืช ตลอดจนการแข่งขันในตลาดส่งออกของโลกที่มีแนวโน้มรุนแรงสูงขึ้น และกฎระเบียบ มาตรการทางการค้าระหว่างประเทศที่เป็นอุปสรรคซึ่งส่งผลโดยตรงต่อผลผลิตและรายได้ของเกษตรกรอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เป็นต้น
จากสถานการณ์ดังกล่าวข้างต้น หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ได้มีข้อห่วงใยต่อเกษตรกร ราคาสินค้าเกษตรและอาหารในปัจจุบัน จึงได้ระดมความร่วมมือจากภาคเอกชนทุกภาคส่วน ได้แก่ สมาคมผู้ค้าปลีกไทย สมาคมอุตสาหกรรมทูน่าไทย สมาคมการค้าอาหารสัตว์เลี้ยงไทย สมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย สมาคมโรงแรมไทย สมาคมภัตตาคารไทย สมาคมเชฟประเทศไทย สมาคมการค้าที่เกี่ยวข้องกับอาหาร และห้างค้าปลีก-ค้าส่งสมัยใหม่ (Modern Trade) เพื่อจะช่วยรับซื้อสินค้าเกษตรจากพี่น้องเกษตรกรทั่วประเทศ
พร้อมทั้ง หอการค้าไทย ได้จัดตั้งศูนย์ประสานงานกลางและประชาสัมพันธ์สินค้าเกษตรและอาหาร (Coordination Center) เพื่อทำหน้าที่ประสานงานช่วยเหลือและประชาสัมพันธ์สินค้าเกษตรและอาหารทั่วประเทศ โดยหอการค้าไทย ร่วมกับหอการค้าจังหวัดทั่วประเทศ จะเชิญกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (อาทิ กรมประมง กรมปศุสัตว์ กรมส่งเสริมการเกษตร) กระทรวงพาณิชย์ (อาทิ กรมการค้าภายใน กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ) เข้าร่วมเป็นคณะทำงานเพื่อมาร่วมจัดตั้งศูนย์ประสานงานกลางและประชาสัมพันธ์สินค้าเกษตรและอาหาร และแก้ไขวิกฤตของภาคเกษตรและอาหารราคาตกต่ำ สินค้าเกษตรล้นตลาด ฯลฯ ให้เป็นรูปธรรม
ในวันนี้ หอการค้าไทย สมาคมการค้าที่เกี่ยวข้อง และห้างค้าปลีก-ส่งสมัยใหม่ (Modern Trade) ได้ดำเนินการช่วยพยุงราคาสินค้าสัตว์น้ำในประเทศ ร่วมกับกรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์แล้ว โดยได้ริเริ่มเข้าไปช่วยรับซื้อสินค้าสัตว์น้ำจากเกษตรกรชาวประมงในราคาที่เหมาะสมและเป็นธรรม ซึ่งสมาชิกสมาคมอุตสาหกรรมทูน่าไทย สมาคมการค้าอาหารสัตว์เลี้ยงไทย และสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย ได้ประสานงานกับเกษตรกรชาวประมง ในการรับซื้อสินค้าสัตว์น้ำโดยตรง เช่น ปลาโอดำ ปลาโอลาย ปลาไล้กอ ปลาทรายแดง ปลาตาหวาน หมึก ปลากะพงขาว เป็นต้น
ท้ายที่สุดนี้ ผม ในนามของหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยมีความพยายามและมุ่งมั่นที่อยากจะเห็นคุณภาพชีวิต รายได้ของเกษตรกรทั่วประเทศที่ดีขึ้น เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับสินค้าเกษตรและอาหารของไทยต่อไป
นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า จากสถานการณ์ปัญหาราคาสัตว์น้ำตกต่ำ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการมายังกรมประมง ให้เร่งบรรเทาความเดือดร้อนของชาวประมงอย่างเร่งด่วน โดยกรมประมงได้ดำเนินการมาตรการต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาและยังมีมาตรการแก้ไขปัญหาฯ ในระยะเร่งด่วนออกมาเพิ่มเป็นระยะๆ ที่สำคัญคือการยกระดับมาตรการตรวจสอบสินค้าสัตว์น้ำนำเข้า ได้แก่ 1) การป้องกันการลักลอบนำเข้าสินค้าประมงโดยผิดกฎหมาย มีการจัดชุดเฉพาะกิจของกรมประมงลงพื้นที่ทำงานโดยเฉพาะตามแนวชายแดน 2) ปรับปรุงประกาศกรมประมง เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาตและการอนุญาตนำเข้าสัตว์น้ำหรือผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ พ.ศ. 2560 ตามมาตรา 92 แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยต้องสามารถตรวจสอบและยืนยันแหล่งที่มาของสัตว์น้ำที่ขอนำเข้าได้ ปริมาณนำเข้าจริงต้องตรงตามที่ระบุในเอกสารการขอนำเข้า ต้องแนบ packing list และต้องแจ้งปลายทางของสินค้าที่นำเข้าเป็นต้น 3) มาตรการยกระดับการตรวจตามมาตรฐานด้านสุขอนามัย โดยจะมีการสุ่มตรวจสินค้าสัตว์น้ำเพื่อวิเคราะห์สารตกค้าง โลหะหนัก และสารปนเปื้อน พร้อมทั้งมีการออกประกาศกรมประมง เรื่อง "การยกระดับมาตรการด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช (SPS) ในการนำเข้าสินค้าปลากะพงขาวแช่เย็น จากประเทศมาเลเซีย พ.ศ. 2567" โดยผู้ประกอบการต้องแนบ Certificate of Analysis (COA) ที่ออกโดยห้องปฏิบัติการของรัฐหรือรัฐให้การรับรองเท่านั้น ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา นอกจากนี้ กรมประมงได้มีการสนับสนุนให้นำกลไกการตกลงราคาระหว่างกลุ่มชาวประมงกับสมาคมต่างๆ ที่เป็นผู้รับซื้อมาใช้ รวมทั้งประสานหอการค้าไทยและสมาคมการค้าที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นตัวกลางในการประสานห้างค้าปลีก-ค้าส่งสมัยใหม่ (Modern Trade) โรงแรมและภัตตาคารต่างๆ ให้ช่วยสนับสนุนผลผลิตประมงภายในประเทศ และคาดว่าหลังจากการดำเนินการมาตรการต่างๆ จะส่งผลให้สถานการณ์ราคาสัตว์น้ำในประเทศดีขึ้นตามลำดับ และหลังจากนี้จะมีการดำเนินมาตรการระยะยาวควบคู่กันต่อไป
นายชนินทร์ ชลิศราพงศ์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมทูน่าไทย กล่าวว่า สมาคมอุตสาหกรรมทูน่าไทย ขอความร่วมมือจากโรงงานสมาชิกทั้งจากภาคใต้และสมุทรสาคร ในการรับซื้อปลาจากเรือไทย โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับปลาทูน่า ปลาซาร์ดีน แมคเคอเรล เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาราคาสัตว์น้ำตกต่ำให้แก่ชาวประมง ทางสมาคมฯ มีจุดยืนแน่นอนสนับสนุนนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่จะช่วยเหลือชาวประมงให้อยู่ได้ อุตสาหกรรมอยู่ได้ โดยจะรับซื้อปลาจากเรือประมงไทยเฉพาะที่กรมประมงตรวจสอบแล้ว ไม่เป็น IUU Fishing ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการหารือและช่วยเหลือร่วมกันมาโดยตลอดอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม เสนอว่าควรมีการสื่อสารรับทราบสถานการณ์ราคาสินค้าประมงในประเทศเป็นระยะๆ โดยกรมประมงเป็นคนกลาง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและสมดุล ในระบบการค้าเสรี
นายอนุชา เตชะนิธิสวัสดิ์ นายกสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย กล่าวว่า สมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย ภายหลังจากการประชุมร่วมระหว่างกรมประมง ชาวประมงและโรงงานผู้ผลิตแล้วก็ได้มีการนำปัญหาความเดือดร้อนของชาวประมงไปหารือกับสมาชิกโรงงานผู้ซื้อปลาซูริมิ และประชุมตกลงราคาร่วมกันกับผู้แทนสมาคม ชมรม เรือประมง และได้สรุปความตกลงราคารับซื้อขายระหว่างกันเพิ่มขึ้นจากราคาหน้าตลาดทะเลไทยอีกกิโลกรัมละ 1-2 บาท โดยโรงงานสมาชิกเองเมื่อทราบข่าวก็ได้เร่งปฏิบัติตามนโยบายในการรับซื้อปลาจากชาวประมงมาตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม ที่ผ่านมา เพื่อช่วยพยุงราคาวัตถุดิบสัตว์น้ำที่ราคาตกต่ำ ซึ่งจากการสังเกตการซื้อขายระหว่างกัน พบว่าตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน เรื่อยมาถึงปัจจุบัน ราคาปลาซูริมิ ก็ได้ปรับตัวสูงขึ้นเป็นที่พึงพอใจแก่ทุกฝ่าย
ทั้งนี้ สมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทยและเรือประมงมีการทำงานอยู่คู่กันมานาน และเมื่อสมาคมฯ รับทราบปัญหาจากกรมประมง สมาคมและโรงงานสมาชิกของสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย พร้อมให้ความร่วมมือ และยินดี ในการเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อให้อุตสาหกรรมประมงต้นน้ำฝ่าฟันอุปสรรคสามารถแก้ปัญหาไปได้ด้วยดี
รายชื่อหน่วยงานภาคีเครือข่าย
สมาคมอุตสาหกรรมทูน่าไทย
สมาคมการค้าอาหารสัตว์เลี้ยงไทย
สมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย
สมาคมผู้ค้าปลีกไทย
สมาคมโรงแรงแรม
สมาคมภัตตาคารไทย
สมาคมเชฟประเทศไทย
บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด
บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ จำกัด
บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด
บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน)
บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน)
บริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด
บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด