วันที่ 25 ตุลาคม 2566 ดร.ชนินทร์ ชลิศราพงศ์ กรรมการนายทะเบียน สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และในฐานะนายกสมาคมการค้าอาหารสัตว์เลี้ยงไทย (TPFA) ได้เป็นประธานกล่าวเปิดงานเสวนาภายในงาน Pet Fair SEA 2023 ภายใต้หัวข้อ อุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงกับความยั่งยืนภายใต้ BCG Model (Applying BCG Model in the Thai Pet Industry for Sustainability) ณ เวที Vet Square Stage ไบเทค บางนา จัดโดย สมาคมการค้าอาหารสัตว์เลี้ยงไทย (TPFA)
ดร.ชนินทร์ ชลิศราพงศ์ กล่าวว่า อุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยง ส่งออกเป็นอันดับ 3 ของโลก ปัจจัยที่สำคัญที่สุด 2 ตัวแปร คือ BCG และ Product Innovation ซึ่ง BCG มีความสำคัญทำให้โลกรับรองและยอมรับในสินค้าไทย สมาคมมองว่า โอกาสที่การส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงของไทยเติบโตทั้งในและต่างประเทศ
การนำหลักการ BCG มาปรับใช้ในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงไทย (Applying BCG principles to Thai pet food industry) โดยคุณวรวีร์ เลขาธิการ TPFA มีเป้าหมายการลด GHG ของประเทศไทย >> ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ร้อยละ 40 ภายในปี 2030 ให้สอดคล้องกับการยกระดับเป้าหมายมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2065 การนำหลักการ BCG ประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยง ได้นำ by product สินค้าปศุสัตว์ เช่น tuna red meat เครื่องใน โครงไก่ มาเพิ่มมูลค่า เป็นวัตถุดิบผสมในอาหารสัตว์เลี้ยง รวมถึงการพัฒนาใช้บรรจุภัณฑ์จาก bioplastic ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม,การติด Solar roof top เพื่อช่วยประหยัดพลังงานในโรงงาน และการนำห่วงดึงฝากระป๋องไปทำขาเทียม
TTIA/TPFA – BCG Roadmap Proposal การลดคาร์บอนในอุตสาหกรรม 2023-2030
Phase I ปี 2023-2024 รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล BCG และ Carbon Footprint Organization เพื่อเป็น Baseline ของอุตสาหกรรมทูน่าและอาหารสัตว์เลี้ยง
Phase II ปี 2025-2030 อุตสาหกรรมทูน่า/อาหารสัตว์เลี้ยง ลดคาร์บอนลง 40% สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ไทย
การดำเนินงาน ผ่าน 4 กิจกรรม หลักๆ ได้แก่ 1) อบรมให้ความรู้ 2) ศึกษาแนวทางการจัดทำ Carbon Footprint 3) อนุรักษ์และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม และ 4) การจัดเสวนาในเวทีสาธารณะ
ความท้าทายในอุตสาหกรรม
1) หน่วยงานภาครัฐสนับสนุนและมีมาตรการจูงใจให้ภาคธุรกิจลงทุนด้านการลด GHG เช่น ภาษี
2) การให้ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญ และหน่วยงานกำกับดูแลที่จะนำไปสู่การปฏิบัติได้แท้จริงอย่างเป็นรูปธรรม
3) การสนันสนุนเรื่องค่าใช้จ่ายและหน่วยงานที่ให้การรับรองด้าน Carbon Footprint
มุมมอง BCG ในอนาคต เพื่อให้เกิดความยั่งยืน ต้องประกอบด้วย 3 อย่าง คือ ความเชื่อมโยง การได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน และ ความต่อเนื่อง
บทบาทการพัฒนา BCG ของกรมปศุสัตว์ (DLD's Role towards Developing BCG Model) โดย นายสัตวแพทย์ธนิต สพส. กรมปศุสัตว์ ศูนย์ส่งเสริมอาหารสัตว์เลี้ยงแบบครบวงจร >> พัฒนาเศรษฐกิจแบบองค์รวมที่มุ่งเน้นการพัฒนา 3 เศรษฐกิจไปพร้อมกัน
- Bio economy >> การนำความรู้ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในการทำเกษตรสมัยใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ยกระดับคุณภาพ มาตรฐานให้กับสินค้าเกษตร รวมถึงใช้ประโยชน์ทางทรัพยากรธรรมชาติในการผลิตและบริการให้มีมูลค่าสูง
- Circular economy >> การใช้ทรัพยากรทางการเกษตรอย่างเต็มประสิทธิภาพ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมถึงจัดการวัสดุเหลือใช้ทางการเกาตรเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม ช่วยลดปัญหาด้านมลพิษ ลดขยะหรือของเสียในฟาร์มให้เป็นศูนย์
- Green economy >> การทำเกษตรอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ใช้ทรัพยากรทางการเกษตรอย่างเหมาะสมและคุ้มค่า
BCG จะตอบโจทย์การพัฒนาที่ยั่งยืน >> การผลิตและบริโภคที่ยั่งยืน การรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การอนุรักษ์ความหลากหลาย ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน อีกทั้งยังสอดรับกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
ประโยชน์ที่ผู้ประกอบการจะได้รับ >> เพิ่มมูลค่าสินค้าจากมาตรฐานสินค้าเกษตรที่สูงขึ้น ลดต้นทุนในการผลิตสินค้า และเพิ่มรายได้กับชุมชนและเกษตรกร
แนวทางการผลักดัน คือ ลดการใช้พลังใช้ และใช้พลังงานสะอาด และเพิ่มการดูดซับ เช่น การปลูกป่า
กรณีศึกษาการนำ BCG ไปใช้ภายใต้นโยบายความยั่งยืนของบริษัท (Case study) โดยคุณปราชญ์ TU Group (hand pointing right)Thai Union's Approach to Sustainability & BCG Economy Model
Sea Change 2030 เป้าหมายที่ท้าทายเพื่อมุ่งสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับห่วงโซ่มูลค่าธุรกิจอาหารทะเล โดยมีพันธกิจเพื่อความยั่งยืน 11 ข้อ ได้แก่
1) เส้นทางสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์
2) การทำประมงอย่างรับผิดชอบ
3) การเพาะเลี้ยงสัตว์อย่างรับผิดชอบ
4) การฟื้นฟูระบบนิเวศ
5) เกษตรกรรมที่มีความรับผิดชอบ
6) กระบวนการผลิตที่เป็นเลิศ
7) งานที่ปลอดภัย มีคุณค่า และเท่าเทียม
8) การลดขยะพลาสติกในทะเล
9) โภชนาการและสุขภาพ
10) บรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน
11) การเป็นพลเมืองดีของสังคม
การบรรลุเป้าหมายต่างๆ เหล่านี้ จะช่วยลดปริมาณคาร์บอน จำกัดปริมาณของเสียให้น้อยที่สุด รวมถึงป้องกันและฟื้นฟูระบบนิเวศ และเพื่อให้มั่นใจว่าจะทำให้เกิดงานที่ปลอดภัย มีคุณค่าและเท่าเทียม ให้เกิดขึ้นจริงตลอดห่วงโซ่มูลค่า ซึ่งจะทำให้โลกของเราน่าอยู่ขึ้น
ตัวอย่างการดำเนินงานด้าน BCG
- 2025 Tuna Commitment Fish accounts for about 17% of animal protein consumed by the global population
- ติดตั้งระบบ Zero Discharge ที่โรงงาน จ.สมุทรสาคร เพื่อบรรลุเป้าหมายความยั่งยืน Sea Change 2030
- Path to Net Zero Emission
ความท้าทายในซัพพลายเชน
- เป้าหมายร่วมกันของภาครัฐ เอกชน และทั่วโลก คือการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ทั้ง 3 Scope
- สมาชิกทำงานร่วมกับสมาคม ผลักดัน และทำงานร่วมกันอย่างจริงจัง