ยุคดิจิทัล หลายคนหันมาหารายได้เสริมด้วยการขายของออนไลน์กันมากขึ้น ในขณะที่รายได้กำลังไปได้สวย แต่ยังมีอีกหลายคนที่ยังไม่ทราบกฎหมายและข้อบังคับเกี่ยวกับภาษีสำหรับมนุษย์เงินเดือนที่ขายของออนไลน์ บทความนี้จะมาไขข้อสงสัยเหล่านี้ให้กระจ่าง พร้อมแนะนำวิธีการยื่นภาษีอย่างถูกต้อง
การยื่นภาษี เป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของพลเมืองไทยทุกคน ตามกฎหมายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา พ.ศ. 2526 แต่การยื่นภาษี ไม่ได้แปลว่าต้องเสียภาษีเสมอไป การเสียภาษีขึ้นอยู่กับ รายได้สุทธิ ของบุคคลนั้นๆ ว่ามี เกินกว่า เกณฑ์ ที่ต้องเสียภาษีหรือไม่
การเสียภาษีเงินได้ สำหรับพนักงานประจำกับการขายของออนไลน์นั้นจะต้องแยกประเภทการเสียภาษีตามเงินได้พึงประเมิน 8 ประเภท รายได้จากงานประจำเป็นรายได้ประเภทหนึ่ง ส่วนรายได้จากการขายของออนไลน์ก็ถือว่าเป็นผู้มีรายได้อีกรูปแบบหนึ่ง สำหรับรายได้จากขายของออนไลน์เมื่อมีรายได้เกิน 60,000 บาท (กรณีโสด) หรือมีรายได้เกิน 120,000 บาท (กรณีสมรส) ต่อปี จำเป็นที่จะต้องยื่นภาษีตามที่กฎหมายกำหนดตามมาตรา 56 แห่งประมวลรัษฎากร หากพูดให้เข้าใจได้ง่าย คือ ไม่ว่าจะมีรายได้จากช่องทางไหน ก็ควรนำรายได้ทั้งหมดมายื่นภาษี
ก่อนที่จะยื่นภาษี เราต้องทำความเข้าใจประเภทของรายได้ที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์เงินเดือนขายออนไลน์ก่อน โดยหลัก ๆ แล้ว รายได้ที่เกิดขึ้นจะมาจาก 2 ทาง คือ รายได้จากงานประจำและจากการขายออนไลน์ โดยรายได้ทั้งสอง ถือเป็นเงินได้บุคคลธรรมดา แต่แตกต่างกันที่ประเภทของรายได้ ซึ่งแบ่งเป็น 2 ประเภท ดังนี้
โดยสรุปมนุษย์เงินเดือนขายของออนไลน์ ต้องยื่นภาษีเงินได้อยู่ 2 ประเภท คือ เงินได้ประเภทที่ 1 และ เงินได้ประเภทที่ 8 เมื่อเราทราบประเภทเงินได้ที่ต้องยื่นภาษีแล้ว จะต้องทำการยื่นแบบ ภ.ง.ด. ดังนี้
- กรณีขายของออนไลน์ ยอดขายเกิน 1,800,000 บาท ต่อปี ต้องทำการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และยื่นแบบ ภ.พ.20 เพิ่ม
หากขายของออนไลน์และไม่ยื่นภาษีหรือยื่นภาษีล่าช้า มีบทลงโทษ ดังนี้
• หากไม่เคยยื่นภาษี
ภาษีย้อนหลังที่ต้องจ่าย = ภาษีค้างจ่าย + เบี้ยปรับ 2 เท่าของภาษีค้างจ่าย + ดอกเบี้ยปรับ 1.5% ต่อเดือน
เช่น (ภาษีค้างจ่าย 20,000 บาท + เบี้ยปรับ 40,000 บาท) + ดอกเบี้ยปรับ 1.5% ต่อเดือน รวมแล้วภาษีย้อนหลังที่ต้องจ่ายอย่างต่ำ = 60,000 บาท และสามารถเรียกเก็บภาษีย้อนหลังได้ถึง 10 ปี
• หากเคยยื่นภาษี แต่ยื่นไม่ครบ จะลดอายุความเหลือ 2-5 ปี
มนุษย์เงินเดือนที่ทำการขายของออนไลน์ จะเสียภาษีในรูปแบบ “ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา” โดยสามารถคำนวณภาษีเงินได้แบบบุคคลธรรมดา มี 2 วิธี คือ
วิธีที่หนึ่ง คำนวณภาษีแบบขั้นบันได
(รายได้ – ค่าใช้จ่าย – ค่าลดหย่อน) x อัตราภาษี = ภาษีที่ต้องจ่าย
1. รายได้จากงานประจำ (เงินได้ประเภท 40(1)) หักค่าใช้จ่ายแบบเหมาได้ 50% แต่ไม่เกิน 100,000 บาท
2. รายได้จากขายของออนไลน์ (เงินได้ประเภท 40(8)) มี 2 วิธี
• หักค่าใช้จ่ายแบบเหมาได้ 60% ใช้ได้ในกรณีที่ขายของออนไลน์แบบซื้อของมาขาย
• หักค่าใช้จ่ายตามจริง ใช้ในกรณีที่ผลิตสินค้าเอง แต่วิธีนี้จะต้องมีการทำบัญชีรายรับรายจ่าย และเก็บเอกสารอย่างรอบคอบ
นาย ก เงินเดือน 30,000 บาท และมีรายได้จากขายของออนไลน์เดือนละ 15,000 บาท ทำประกันชีวิตปีละ 20,000 บาท
1. รายได้ต่อปี 30,000 x 12 = 360,000
หักค่าใช้จ่าย 360,000-100,000 = 260,000 บาท
2. เงินจากการขายของออนไลน์ : 15,000 / เดือน รายได้ต่อปี 15,000 x 12 = 180,000
หักค่าใช้จ่าย 60% : 180,000 – 108,000 = 72,000 บาท
3. นำเงินได้หลังหักค่าใช้จ่ายจากทั้ง 2 ประเภทมารวมกัน จะได้ 260,000+72,000 = 332,000 บาท
4. นำเงินได้ 332,000 – (60,000 + 20,000) = 252,000 บาท
5. นำเงินที่หักลบค่าลดหย่อนแล้ว มาคิดภาษีขั้นบันได
คำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ คือ (150,000 แรกยกเว้น) + (102,000 x 5%) = 7,000 บาท
สรุป นาย ก จะต้องเสียภาษี 7,000 บาท
วิธีที่สอง คำนวณภาษีแบบเหมา
วิธีการ คือ เงินได้ทั้งหมด x 0.5% วิธีนี้จะใช้ได้ก็ต่อเมื่อมีรายได้ที่ไม่ใช่เงินเดือนเกิน 1 ล้านบาทต่อปี
หากใครมีรายที่ไม่ใช่เงินเดือนเกิน 1 ล้านบาท ต้องคำนวณดูทั้ง วิธีแรก และวิธีที่สองควบคู่กันไป วิธีไหนได้ภาษีที่ต้องจ่ายมากกว่า ก็ให้ใช้วิธีนั้นในการคำนวณ
Conclusion
การเสียภาษีอย่างถูกต้องเป็นหน้าที่ของพลเมืองทุกคน การยื่นภาษีตรงต่อเวลาช่วยให้ภาครัฐมีรายได้นำมาพัฒนาประเทศ และยังเป็นสิทธิ์ของผู้เสียภาษีที่จะได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ จากภาครัฐอีกด้วย ดังนั้น มนุษย์เงินเดือนที่ขายของออนไลน์อย่าลืมเสียภาษีให้ถูกต้องตามกฎหมาย และจะเห็นว่ามนุษย์เงินเดือนที่ขายของออนไลน์ ต้องเสียภาษีในรูปแบบ "ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา" เช่นเดียวกับประชาชนทั่วไป แต่จะมีวิธีการคำนวณและยื่นภาษีที่แตกต่างจากพนักงานเงินเดือนทั่วไป
สำหรับแม่ค้าออนไลน์ที่มียอดขายจำนวนมาก แนะนำให้จดทะเบียนนิติบุคล เพื่อธุรกิจที่โตขึ้นและลดความเสี่ยงของธุรกิจที่จะตามมา ซึ่งทาง PEAK โปรแกรมบัญชีออนไลน์ มาพร้อมฟีเจอร์ครบครัน ใช้งานสะดวก รวดเร็วสำหรับแม่ค้าหรือเจ้าของธุรกิจมือใหม่ ที่ช่วยให้คุณจัดการบัญชีธุรกิจออนไลน์ได้อย่างง่ายดาย