หอการค้าฯ ลุยต่อ หนุน กพร. กรมพัฒน์ ต่อยอด 12 หน่วยงานรัฐ ไม่เซ็นไม่เรียกเอกสาร พร้อมเสนอ Sandbox เดินหน้าสู่ e-Government

 

 

(16 ธันวาคม 2567) หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ผนึกกำลัง สำนักงาน ก.พ.ร.และกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ แถลงข่าวขยายผลความสำเร็จการเชื่อมโยงข้อมูลนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ตามแนวทาง ไม่เรียก ไม่เซ็นเอกสาร ลดภาระซ้ำซ้อน ย้ำความพร้อมระยะที่ 2 กับ 12 หน่วยงานรัฐ ลุยยกระดับบริการภาครัฐ อำนวยความสะดวกธุรกิจและประชาชน ย้ำประหยัดต้นทุนได้รวมกว่า 7,100 ล้านบาทต่อปี นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย พร้อมทั้งนายสุรงค์ บูลกุล รองประธานกรรมการหอการค้าไทย เผยว่า ภาคเอกชนสนับสนุนภาครัฐที่ให้ความสำคัญกับการปรับปรุงขั้นตอนและข้อจำกัดทางกฎหมาย รวมถึง ระเบียบต่างๆ โดยเฉพาะการขออนุมัติ/อนุญาตให้มีความสะดวก ซึ่งเมื่อช่วงกลางปีนี้ สำนักงาน ก.พ.ร. และกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ประสานกับ 10 หน่วยงานรัฐจนสามารถเชื่อมโยงข้อมูลนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นผลสำเร็จ ทำให้ลดกระบวนงานเรียกเอกสารได้จำนวนมาก ถือเป็นต้นแบบความสำเร็จระยะที่ 1 ของการไม่เรียกไม่เซ็นเอกสาร ลดภาระต้นทุนและเพิ่มความคล่องตัวให้ธุรกิจและประชาชน 

  
หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย แสดงความยินดีต่อผลสำเร็จของการขยายผลเชื่อมโยงข้อมูลนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ระยะที่ 2 นี้ ซึ่งครอบคลุมหน่วยงานรัฐเพิ่มอีก 12 หน่วยงาน จากที่ได้เชื่อมโยงไปแล้ว 10 หน่วยงาน ทำให้ปัจจุบันเรามีถึง 22 หน่วยงานรัฐ ที่สามารถเชื่อมโยงข้อมูลและยกเลิกการเรียกเอกสารนิติบุคคลได้ ถือเป็นการยกระดับบริการภาครัฐอย่างเป็นรูปธรรม นายสนั่นฯ ยังได้ขอบคุณ 12 หน่วยงานรัฐที่แสดงความพร้อมเชื่อมโยงข้อมูลเพิ่มเติมในครั้งนี้ พร้อมทั้งยืนยันว่า หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะตัวแทนภาคเอกชน ตลอดจน มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ยินดีให้ความร่วมมือ สำนักงาน กพร. และ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่อขยายผลการเชื่อมโยงข้อมูลนิติบุคคลไปยังหน่วยงานรัฐกลุ่มที่เหลือตามแผนงานที่วางไว้อย่างเต็มที่  

  

นอกจากนี้ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย พร้อมทั้ง มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยมีแนวทางจะทำ Sandbox  ร่วมกับ กพร. กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจน จะเชิญสมาชิกฯ มาร่วมขับเคลื่อนแนวทางไม่เรียก ไม่เซ็นสำเนา ในทุกเอกสารและทุกกระบวนงาน ในลักษณะเอกชนต่อรัฐ หรือ Business to Government (B2G) นำร่องกระบวนงานสำคัญ เพื่อเป็น Quick Win ต้นแบบการอำนวยความสะดวกการประกอบธุรกิจด้วยความร่วมมือระหว่างรัฐและเอกชนอย่างเข้มแข็ง เดินหน้าสู่ e-Government แบบครบวงจร 

 

ด้านนางสาวอ้อนฟ้า เวชชาชีวะ เลขาธิการ ก.พ.ร. กล่าวถึง ความมุ่งมั่นของภาครัฐในการยกระดับประสิทธิภาพการให้บริการ ซึ่งที่ผ่านมาภาครัฐได้ให้ความสำคัญกับการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนและภาคธุรกิจ โดยผลักดันการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ ผ่านการออกกฎหมายต่าง ๆ ได้แก่

  • พระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ.2558 เพื่อแก้ปัญหาความไม่สะดวกต่างๆ ของการอนุมัติ อนุญาต 
  • พระราชบัญญัติการบริหารงานและการให้บริการภาครัฐผ่านระบบดิจิทัล พ.ศ. 2562 เพื่อกำหนดแนวทางการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการบริหารราชการแผ่นดิน 
  • พระราชบัญญัติการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2565 เพื่อส่งเสริมให้การทำงานและการให้บริการของภาครัฐสามารถใช้วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นหลักได้เพื่อไปสู่รัฐบาลดิจิทัล
  • ร่างพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตและการให้บริการแก่ประชาชน พ.ศ. .... โดยกฎหมายฉบับนี้ จะเพิ่มประสิทธิภาพภาครัฐเพื่อให้บริการประชาชนให้ดียิ่งขึ้น 

การเชื่อมโยงข้อมูลภาครัฐเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดภาระการขอเอกสารจากประชาชน ซึ่งจากความสำเร็จในระยะแรกของ 10 หน่วยงานรัฐ สำนักงาน ก.พ.ร. และ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ขยายผลกับหน่วยงานอื่นที่เหลือ แบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 

  1. กลุ่มที่มีความพร้อมยกเลิกการเรียกรับเอกสารเกี่ยวกับนิติบุคคลได้ ภายในเดือนธันวาคม 2567 จำนวน 12 หน่วยงาน ซึ่งได้แถลงข่าวในครั้งนี้ 
  2. กลุ่มที่ต้องมีการทบทวนกระบวนงานซึ่งสามารถยกเลิกการเรียกรับเอกสารเกี่ยวกับนิติบุคคลได้ภายในเดือนธันวาคม 2568 จำนวน 25 หน่วยงาน
  3. กลุ่มที่อยู่ระหว่างการพัฒนาระบบอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งสามารถยกเลิกการเรียกรับเอกสารเกี่ยวกับนิติบุคคลได้ ภายในเดือนธันวาคม 2569 จำนวน 27 หน่วยงาน

ความสำเร็จที่เกิดขึ้นจาก 22 หน่วยงานรัฐ ที่ร่วมขับเคลื่อนการยกเลิกใช้เอกสารเกี่ยวกับนิติบุคคลทำให้ประชาชนและผู้ประกอบการประหยัดค่าใช้จ่ายในภาพรวม ได้กว่า 7,100 ล้านบาทต่อปี ซึ่งสำนักงาน ก.พ.ร.และ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า โดยการสนับสนุนของภาคเอกชน จะร่วมกันผลักดันให้สำเร็จตามแผนดังกล่าว ให้ครบทุกหน่วยงานภายในปี 2569 เพื่อพัฒนาระบบราชการให้เป็นเสาหลักของการพัฒนาประเทศ นางสาวอ้อนฟ้าฯ เน้นย้ำ

 
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ในวันนี้ ผู้ประกอบการไทยจะดำเนินธุรกิจได้ง่ายและสะดวกขึ้น ไม่ต้องใช้เอกสารข้อมูลนิติบุคคลในการติดต่อราชการ อีกต่อไป ด้วยความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ที่มุ่งหวังอำนวยความสะดวกภาคธุรกิจ ความมุ่งมั่นในการยกระดับระบบราชการไปสู่ Digital Government และเพื่อประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม นำไปสู่การหารืออย่างใกล้ชิดจนสามารถประกาศไม่เรียกรับเอกสารนิติบุคคลเพิ่มอีก 12 หน่วยงาน ในวันนี้
สำหรับข้อมูลที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้เชื่อมโยงให้กับหน่วยงานภาครัฐ ประกอบด้วย 7 ชุดข้อมูล ได้แก่ (1) ข้อมูลทะเบียนนิติบุคคล (2) ข้อมูลบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น (3) ข้อมูลงบการเงิน (4) ข้อมูลทะเบียนพาณิชย์ (5) ข้อมูลการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว (6) ข้อมูลทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจ และ (7) ข้อมูลสนับสนุนการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลของนิติบุคคล 

   

นางอรมนฯ กล่าวต่อว่า ภายหลังจากการประกาศยกเลิกการเรียกรับเอกสารนิติบุคคลของ 10 หน่วยงานภาครัฐชุดแรกไปเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2567 จนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา พบว่า 10 หน่วยงานที่เชื่อมโยงข้อมูลกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า มีการใช้บริการเอกสารจากระบบรวม 2.8 ล้านรายการ โดยหน่วยงานที่มีสัดส่วนการใช้บริการสูงสุด 5 อันดับแรก คือ กรมบัญชีกลาง สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) กรมสรรพากร สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และกรมที่ดิน ตามลำดับ แสดงให้เห็นว่า การเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานภาครัฐและการไม่เรียกเอกสารจากประชาชน สามารถอำนวยความสะดวกและลดต้นทุนของภาคธุรกิจและภาครัฐได้มาก โดยข้อมูลของสำนักงาน ก.พ.ร. พบว่า ได้ช่วยลดค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบการมากกว่า 7 พันล้านบาทต่อปี ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ขับเคลื่อนไปสู่ Digital Government และการอำนวยความสะดวกประชาชน  นางอรมนฯ กล่าวทิ้งท้าย

  
การขยายผลความสำเร็จครั้งนี้ เป็นอีกก้าวสำคัญของการบูรณาการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานภาครัฐ โดยผนึกกำลังสนับสนุนจากภาคเอกชน เพื่อช่วยยกระดับการอำนวยความสะดวกการประกอบธุรกิจและการดำเนินชีวิตของประชาชนสอดรับกับแนวทางการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย        

 

คลิป Tiktok

  1. คุณสุรงค์ บูลกุล รองประธานกรรมการหอการค้าไทย: https://vt.tiktok.com/ZS6FxC33s/
  2. คุณอ้อนฟ้า เวชชาชีวะ เลขาธิการ ก.พ.ร. : https://vt.tiktok.com/ZS6Fx53U3/
  3. คุณอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า : https://vt.tiktok.com/ZS6Fxhguc/

รายชื่อ 12 หน่วยงานภาครัฐพร้อมเชื่อมโยงข้อมูลนิติบุคคลระยะที่ 2 (แถลงข่าววันที่ 16 ธันวาคม 2567)
1.กรมทรัพย์สินทางปัญญา: https://vt.tiktok.com/ZS6YqDTHa/
2.กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ : https://vt.tiktok.com/ZS6MmE9bo/
3.สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค : https://vt.tiktok.com/ZS6hY8XTy/
4.กรมทางหลวงชนบท : https://vt.tiktok.com/ZS6YqrDGv/
5.กรมการท่องเที่ยว: https://vt.tiktok.com/ZS6rUuqcE/
6.กรมท่าอากาศยาน : https://vt.tiktok.com/ZS6kA7QG6/
7.สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) : https://vt.tiktok.com/ZS6kAcytC/
8.สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม : https://vt.tiktok.com/ZS6km8n7A/
9.สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ : https://vt.tiktok.com/ZS6kA7aff/
10.สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล : https://vt.tiktok.com/ZS6jQeWWE/
11.สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) : https://vt.tiktok.com/ZS66UdkJN/
12.สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช) : https://vt.tiktok.com/ZS6YqVkK1/

 

รายชื่อ 10 หน่วยงานภาครัฐพร้อมเชื่อมโยงข้อมูลนิติบุคคลระยะที่ 1 (แถลงข่าววันที่ 23 เมษายน 2567)
1.สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา : http://https://www.facebook.com/share/r/FPcYBSr2ikmwdrJY/?
2.กรมที่ดิน : https://www.facebook.com/share/r/CmU8c46ykZmdXNjv/?
3.กรมธนารักษ์ : https://www.facebook.com/share/r/UWtjvDsSNzDDUZpH/?
4.สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) : https://www.facebook.com/share/r/zKxVyzX6QCP29VRn/?mibextid=WC7FNe
5.กรมโรงงานอุตสาหกรรม : https://www.facebook.com/share/r/i3Dupo3SSPiv1rgN/?
6.กรมสรรพสามิต : https://www.facebook.com/share/r/uSoMSjsKxA2nLZbX/?mibextid=WC7FNe
7.ธนาคารแห่งประเทศไทย : https://www.facebook.com/share/r/nsMweZAqUjyNBSN8/?
8.กรมศุลกากร https://www.facebook.com/share/r/4NEQQF3LLd3Fg5DR/?
9.กรมบัญชีกลาง : https://www.facebook.com/share/r/pPVK3g9a5i1JeAJk/?
10.กรมสรรพากร : https://www.facebook.com/share/r/sjv8x5r6idWK7QSF/?mibextid=WC7FNe

กระบวนงาน/ธุรกรรมรายหน่วยงานที่สามารถลดเรียกเอกสารได้

ข่าวอื่นๆ