วันที่ 23 พฤศจิกายน 2567 ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการ คนที่ 1 หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานศูนย์ประสานงานและประชาสัมพันธ์สินค้าเกษตรและอาหาร (ศูนย์ AFC) ได้กล่าวนำเสนอ บทบาทสำคัญของศูนย์ AFC ในการขับเคลื่อนและส่งเสริมสินค้าเกษตรและอาหารของไทย เพื่อมุ่งแก้ไขปัญหาราคาสินค้าตกต่ำและล้นตลาด ภายในงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 42 ภายใต้แนวคิด "CONNECT FOR GROWTH: INNOVATING FOR OUR SUSTAINABLE FUTURE - สร้างไทยให้เติบโต สู่อนาคตที่ยั่งยืน" งานนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-24 ธันวาคม 2567 ณ NICE Hall สวนนงนุช จังหวัดชลบุรี โดยมีสมาชิกหอการค้าจากทั่วประเทศเข้าร่วมมากกว่า 1,200 คน ถือเป็นโอกาสสำคัญในการประชาสัมพันธ์ความร่วมมือของศูนย์ AFC สู่เครือข่ายผู้ประกอบการและเกษตรกรในทุกภูมิภาค
พร้อมทั้ง กล่าวถึง การขับเคลื่อนของศูนย์ AFC ระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา ได้แก้ไขปัญหาสินค้าเกษตรราคาตกต่ำ-ล้นตลาดของไทย ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนทั้ง 28 หน่วยงานให้เป็นรูปธรรม อาทิ
- สมาคมอุตสาหกรรมทูน่าไทย ได้นำร่องความร่วมมือการรับซื้อวัตถุดิบสินค้าสัตว์น้ำกลุ่ม ปลาโอของไทยจากเรือประมงไทย ร่วมกับ สมาคมประมงอวนล้อมจับ (ประเทศไทย) เพื่อผลักดันและสนับสนุนการใช้วัตถุดิบสัตว์น้ำกลุ่มปลาโอ (โอดำ โอลาย และโอหลอด) ที่ได้จากเรือประมงไทยในน่านน้ำไทย โดยสมาคมอุตสาหกรรมทูน่าไทย ได้เตรียมการช่วยรับซื้อสัตว์น้ำกลุ่มปลาโอ จำนวน 50,000 ตัน หรือคิดเป็นมูลค่า 2,000 ล้านบาท
- สมาคมภัตตาคารไทย จัดงาน Thailand Food Travel Mart 2024 ส่งเสริมการบริโภคสินค้าเกษตรและอาหาร กระตุ้นรายได้ 7 แสนล้านบาท พร้อมทั้ง ร่วมโปรโมทการบริโภคปลากระพงขาว เพื่อช่วยให้เกิดการซื้อ-ขายกับเกษตรกรโดยตรง
- สมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย ได้ร่วมมือกับ สมาคมการประมงแห่งประเทศไทย ในการรับซื้อวัตถุดิบปลาทะเลเพื่อนำไปผลิตเป็นเนื้อปลาบด (ซูริมิ) ที่ได้จากเรือประมงไทยในน่านน้ำไทย โดยจะรับซื้อวัตถุดิบสัตว์น้ำในราคาที่สูงขึ้น 1-2 บาทต่อกิโลกรัม พร้อมทั้งยังได้มีการหารือร่วมกับ สมาคมโรงแรมไทย เพื่อนำผลผลิตของเกษตรกรเครือข่ายไปจำหน่ายกับสมาชิกสมาคมโรงแรมไทย ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสในการกระจายสินค้าของเกษตรกร เป็นต้น
จากที่กล่าวมาเบื้องต้นเป็นส่วนหนึ่งในความตั้งใจของ หอการค้าไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย หอการค้าจังหวัด สมาคมภัตตาคารไทย สมาคมการค้าที่เกี่ยวข้อง ทั้ง 28 หน่วยงานภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อแก้ไขสินค้าเกษตรล้นตลาดและราคาตกต่ำ ตอกย้ำความมุ่งมั่น ตั้งใจในการสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคเกษตรและเศรษฐกิจไทย
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการจัดบูธประชาสัมพันธ์ความร่วมมือของศูนย์ AFC พร้อมนำสินค้าเกษตรและอาหารหลากหลายจากภาคีเครือข่ายภาคเอกชน เช่น CP Axtra และ Tops (จริงใจ ฟาร์มเมอร์ส มาร์เก็ต และ ท็อปส์ ท้องถิ่น) มาร่วมจัดแสดง โดยสินค้าเหล่านี้ล้วนเกิดจากความร่วมมือในการสนับสนุนเกษตรกรในประเทศ สะท้อนถึงความตั้งใจร่วมกันที่จะสร้างโอกาสและความยั่งยืนในภาคเกษตรไทยอย่างแท้จริง