แถลงข่าวงานมหกรรมรวมพลัง SME ไทย (Thailand SME Synergy Expo 2024) และพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการขับเคลื่อน SME Clinic เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน SME ไทย

        เมื่อวันศุกร์ที่ 14 มิถุนายน 2567 เวลา 10.00-11.15 น. ณ ห้องบุรฉัตรไชยากร ชั้น 4 สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ คุณอธิป พีชานนท์ รองประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เป็นผู้แทนเข้าร่วมงานแถลงข่าวมหกรรมรวมพลัง SME ไทย (Thailand SME Synergy Expo 2024) ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19 - 23 มิถุนายน 2567  ณ ฮอลล์ 5-6 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ได้รับเกียรติจาก นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานแถลงข่าว
        สำหรับงานมหกรรมรวมพลัง SME ไทย : THAILAND SME SYNERGY EXPO 2024 เปรียบเสมือน ‘One-Stop Shopping’ สำหรับ SME ที่ช่วยสร้างโอกาส สร้างความเข้มแข็งให้กับธุรกิจด้วยองค์ความรู้ด้านต่างๆ เครื่องมือที่จำเป็นต่อการดำเนินธุรกิจในยุคดิจิทัล เงินทุนดอกเบี้ยต่ำ และทำเลการค้าที่คัดสรรแล้วในราคาพิเศษ ตลอดจนการเจรจาธุรกิจกับผู้ซื้อภายในประเทศและต่างประเทศ เพื่อเพิ่มโอกาสทางการตลาดให้กับผู้ประกอบการ SME  คาดว่าตลอดการจัดงาน 5 วัน จะสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ไม่ต่ำกว่า 140 ล้านบาท
โดยในงาน 6 ไฮไลท์สำคัญ ประกอบด้วย

1. ทำเลการค้าพิเศษ โดยประชาชนทั่วไป ผู้ว่างงาน ที่ต้องการมีอาชีพ มีรายได้ และต้องการเติบโตทางธุรกิจ สามารถมาเดินงานนี้เพื่อเลือกทำเลการค้าราคาพิเศษกว่า 19,000 ทำเล จากเจ้าของพื้นที่ทั้งสถานีบริการน้ำมัน ห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ ห้างสรรพสินค้า ตลอดจนตลาดชุมชน ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยเจ้าของพื้นที่พร้อมมอบส่วนลดพิเศษให้ SME เช่น ปลอดค่าเช่าตลอดสัญญาชำระเฉพาะค่าสาธารณูปโภค ทดลองขาย 2 เดือนเหมาจ่ายเริ่มต้น 2,000 - 4,000 บาท ฟรีค่าเช่าพื้นที่ 3 เดือนแรก เป็นต้น โดยสามารถพูดคุยต่อรองราคากับเจ้าของพื้นที่ได้ทันที
2. บริการ “SME Clinic” ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์และพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน รวม 22 หน่วยงาน ที่พร้อมให้คำปรึกษาแนะนำ ให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการ SME ในเรื่องต่างๆ เพื่อติดอาวุธและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของ SME ไทย ขณะเดียวกันเมื่อ SME ที่ได้รับการเสริมทักษะเหล่านี้ ต้องการเงินทุนสนับสนุนจากสถาบันการเงิน ก็จะยิ่งสร้างความมั่นใจให้กับธนาคารในการให้สินเชื่อ เพราะถือว่าผ่านการบ่มเพาะมาในระดับหนึ่งแล้ว น่าจะเติบโตได้อย่างมีศักยภาพ ช่วยลดความเสี่ยงเมื่อจะปล่อยเงินกู้
3. ธุรกิจแฟรนไชส์มาร่วมออกบูธกว่า 60 ราย ดังนั้น ผู้ที่ต้องการสร้างอาชีพ เสริมรายได้ด้วยธุรกิจแฟรนไชส์ มีเจ้าของแฟรนไชส์ที่พร้อมเจรจาจับคู่ธุรกิจในงาน แบ่งเป็น 6 กลุ่ม ได้แก่ อาหาร เครื่องดื่ม การศึกษา บริการ ความงามและสปา และค้าปลีก โดยมีแพ็กเกจแฟรนไชส์หลายราคา หลายรูปแบบ และส่วนลดสูงสุดถึง 30% ตั้งแต่ 5,000 - 100,000 บาท
4. กระทรวงพาณิชย์สรรหาทำเลการค้าเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง และทำงานร่วมกับเครือข่ายต่างๆ อาทิ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เครือข่ายธุรกิจ มอค บิส คลับ ประเทศไทย เพื่อหาทำเลการค้าราคาพิเศษให้ผู้สนใจ
5. สำหรับผู้ที่ต้องการแหล่งเงินทุนในการทำธุรกิจ ภายในงานมีแพ็กเกจสินเชื่อพิเศษสำหรับ SME จากสถาบันการเงินชั้นนำ เช่น ธนาคาร บริษัทประกัน รวม 18 หน่วยงาน วงเงินให้กู้รวม 45,000 ล้านบาท มีอัตราสินเชื่อพิเศษตั้งแต่อัตราดอกเบี้ยคงที่ 0% ต่อปี 3 เดือนแรก ลดอัตราดอกเบี้ยปีแรก 0.25% สำหรับผู้ประกอบการขนาด S และอัตราดอกเบี้ยคงที่ 1% ต่อเดือน สำหรับผู้ประกอบอาชีพอิสระรายย่อย เป็นต้น
6. เวทีกลางเสริมทักษะให้ SME จากวิทยากรมืออาชีพที่เชี่ยวชาญที่มาพูดในงานนี้เป็นพิเศษ ดังนั้น SME ที่ต้องการติดอาวุธ เพื่อต่อยอดศักยภาพในการทำธุรกิจ สามารถรับฟังประสบการณ์และองค์ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ โดยมีหัวข้อที่น่าสนใจ อาทิ เทคนิคการบริหารธุรกิจ การทำบัญชีง่ายๆ อย่างมืออาชีพ กลยุทธ์ทางการตลาด ธุรกิจสีเขียว AI และเทคโนโลยีต่างๆ ที่เป็นเครื่องมือสำหรับธุรกิจ SME เป็นต้น

        หอการค้าไทยในฐานะองค์กรหน่วยงานพันธมิตรให้การสนับสนุนการจัดงานในครั้งนี้อย่างเต็มที่ โดยได้จัดเวทีการสัมมนาเพื่อเพิ่มทักษะและความรู้ที่เป็นประโยชน์ให้กับ SME โดยระดมวิทยากรจากเครือข่ายหอการค้ามากมาย เช่น เรื่อง "Sustainable Business Practices กลยุทธ์สู่ธุรกิจที่ยั่งยืน เรื่อง "Generative AI ทักษะแห่งอนาคต" เรื่อง"PDPA น่ากลัวไหม เห็นใครเขาพูดกัน" เรื่อง “กลยุทธ์การตลาดกับการเติบโตแบบธุรกิจครอบครัว” และ “Ted Talk Duo: เวทีนี้ต้องมีพี่เลี้ยง” เป็นต้น
        รวมทั้งยังได้คัดสมาชิกผู้ประกอบการเข้าร่วมแสดงและจำหน่ายสินค้าต่าง ๆ ซึ่งล้วนแต่มีความโดดเด่นไม่เหมือนใคร บางรายก็กวาดรางวัลมาแล้วมากมาย ผู้ร่วมงานสามารถไปจับจ่ายใช้สอยกันได้ เช่น อาหารอนาคต เครื่องดื่มกระตุ้นน้ำนม รองเท้าเพื่อสุขภาพ กระเป๋าดีไซน์ล้ำ ๆ และอีกมากมาย นอกจากนั้น หอการค้าฯ ยังร่วมออกบูธในโซนที่ 7 ซึ่งเป็นการแนะนำสิทธิประโยชน์และบริการต่าง ๆ ที่จะเป็นตัวช่วยให้กับ SMEs ได้เป็นอย่างดี และมีกิจกรรมให้ร่วมสนุกภายในบูธด้วย

        พร้อมกันนี้ คุณอธิป พีชานนท์ ได้เป็นผู้แทนลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยการขับเคลื่อน SME Clinic เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน SME ไทย ระหว่าง 6 หน่วยงาน คือ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ เครือข่ายธุรกิจ มอค บิส คลับ ประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และ สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เพื่อยกระดับมาตรฐานสินค้าและบริการให้แก่ผู้ประกอบการ และสร้างโอกาสทางการค้าทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ รวมถึงเชื่อมโยงและสร้างเครือข่ายให้แก่ผู้ประกอบการ โดย SME Clinic จะเป็นศูนย์กลางในการให้คำปรึกษา ช่วยเหลือ ฟื้นฟู และแก้ไขปัญหาสำหรับผู้ประกอบการ SME