หอการค้าไทย ร่วมกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และ SCG บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) จัดกิจกรรม “สู้เพื่อฝัน Fight for Dreams” โดยเชิญ 2 สาวโปรกอล์ฟมืออาชีพของประเทศไทย นางสาวโมรียา จุฑานุกาล (โปรโม) และนางสาวเอรียา จุฑานุกาล (โปรเม) ที่สร้างตำนานการเป็นโปรกอล์ฟมืออาชีพสู่เบอร์ 1 ของโลก พร้อมทั้งได้รับรางวัลการทูตสาธารณะ ในปี 2566 จากมูลนิธิไทย มาร่วมเล่าประสบการณ์ความภาคภูมิใจ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในมุมมองต่างๆ รวมถึงถ่ายทอดแรงบันดาลใจให้กับนักธุรกิจรุ่นใหม่ (YEC) นักเรียน นักศึกษา และบุคคลทั่วไป ที่พร้อมจะสู้เพื่อฝันของตนเอง ให้จุดประกายฝัน ก้าวสู่ความสำเร็จไปด้วยกัน เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2567 ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย โดยมี นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และนายกสภามหาวิทยาลัยหอการค้าไทย พร้อมด้วย นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร อดีตรัฐมนตรีกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา และกรรมการหอการค้าไทย, นางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารสนเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ตลอดจนผู้บริหารและบุคลากรจาก เอสซีจี เข้าร่วมรับฟัง
ภายในงาน "โปรโม" และ "โปรเม" ได้เปิดเผยถึงเส้นทางสู่ความสำเร็จในฐานะนักกีฬากอล์ฟ ตลอดทั้งแนวคิดในการพัฒนาตัวเอง จนก้าวขึ้นมาสู่ชัยชนะในฐานะนักกอล์ฟมืออาชีพเบอร์ 1 ของโลก ในหัวข้อ "ชัยชนะนี้...เพื่อใคร" และ "My Game"...เกมนี้ของใคร
นางสาวโมรียา จุฑานุกาล (โปรโม) เปิดเผยว่า สำหรับตนเองในวัยเด็กได้รับการปลูกฝังและสนับสนุนจากครอบครัวในการฝึกกีฬากอล์ฟ และแน่นอนว่าการมุ่งมั่นทำอะไรให้สำเร็จ จำเป็นต้องชัดเจนในเป้าหมายและลงมือทำ ซึ่งต้องยอมแลกอะไรในบางสิ่งบางอย่าง เช่น ชีวิตปกติในวันเด็กไป แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อย้อนกลับไปมองเรื่องราวในอดีตที่เผชิญ ก็ยังอยากขอบคุณตัวเองและครอบครัวที่หนุนหลังและอยู่ข้างกันมาเสมอจนทำให้มีวันนี้ สำหรับสิ่งที่อยากฝากถึงน้องๆหากจะเริ่มทำอะไรก็ขอให้ตั้งเป้าหมายและหาวิธีการที่เหมาะสมของตัวเองให้เจอ ที่สำคัญคือ “อย่าเปรียบเทียบตัวเองกับใคร เพราะว่าเป้าหมายของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ดังนั้นความสำเร็จของแต่ละคนเลยต่างกันด้วย" นอกจากนี้ โปรโม ยังเผยถึงสิ่งที่เป็นส่วนประกอบของความสำเร็จว่าต้องอดทน รอคอย และขอให้เชื่อว่าสิ่งที่เราทำอยู่นั้นถูกต้อง สำหรับใครที่มีฝัน ก็อยากให้เชื่อมั่นในตัวเอง และทุกครั้งที่ลงมือทำอะไร ก็ขอให้ทำอย่างเต็มที่
ด้าน นางสาวเอรียา จุฑานุกาล (โปรเม) เปิดเผยว่า ก่อนจะมาถึงจุดที่ประสบความสำเร็จในวันนี้ ก็เจอกับช่วงเวลาที่ยากลำบากมากมาก่อน ซึ่งช่วงเวลาที่ตัวเองเล่นได้ดีที่สุดในอาชีพการเล่นกอล์ฟแล้ว ตีดีมาก เกือบชนะหลายหนมาก แต่มาประสบอุบัติเหตุล้มถึงขั้นไหล่หลุดต้องเข้าโรงพยาบาลและผ่าตัดใหญ่ ทำให้ต้องหยุดอาชีพนักกอล์ฟไปเกือบ 1 ปี ซึ่งพอหายกลับมา อะไรที่เคยทำได้ก็ทำไม่ได้ อะไรที่ง่ายก็กลายเป็นยาก ถือเป็นช่วงเวลาท้อที่สุดเหมือนนับ 1 ใหม่ จนกระทั่งเกิดความท้อและอยากเลิกอาชีพนี้ เพราะคิดว่าถ้าไปต่อก็คงไม่เห็นทางแล้ว แต่พอย้อนกลับไปตอนที่เห็นคุณพ่อคุณแม่ลำบาก วันที่ทั้งสองคนต้องไปยืนเงินคนอื่นเพื่อเอามาเป็นทุนให้เราทั้งสองคนแข่งต่อ ช่วงนั้นทุกคนมีคำถามกับครอบครัวเราว่า ถ้าเกิดไม่ประสบความสำเร็จจะทำอย่างไร ขณะที่คุณพ่อคุณแม่ก็สอนเราทั้งคู่จากการกระทำว่า“หากยังไม่ประสบความสำเร็จ จะไม่หยุดทำ” ซึ่งก็ทำให้เราเองจะต้องไม่หยุดทำเช่นกัน หากยังไปไม่ถึงเป้าหมาย จนมาได้แชมป์แรกหลังจากนั้น 2 ปี และได้แชมป์อีกหลายๆรายการ รวมถึงการได้ขึ้นเป็นมือ 1 ของโลก นอกจากนั้นเมกับพี่โมก็ทำอีกหนึ่งความตั้งใจของเราทั้งคู่ ด้วยการเปิดมูลนิธิโมรียา-เอรียา ซึ่งจุดมุ่งหมายก็เพื่อให้อยากให้ชีวิตของเราทั้งคู่เป็นแรงบันดาลใจให้หลายๆคนในเดินหน้าทำตามความฝัน ทั้งนี้ โปรเม ทิ้งท้ายว่า “ถ้าเราเห็นคุณค่ากับเป้าหมาย ก็จะทำให้เราไม่เลิกทำสิ่งนั้นง่ายๆ และขอให้เชื่อในตัวเอง เชื่อมั่นในตัวเองว่าทำได้ และภูมิใจในความสำเร็จเล็กๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการประสบความสำเร็จในเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่”