TCC On-site Visit @ MAMA วันที่ 4 เมษายน 2568 หอการค้าไทย โดย คุณสถาปนะ เลี้ยวปะไพ กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการเพิ่มความเข้มแข็งให้สมาชิก ได้นำผู้ประกอบการเยี่ยมชม บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จํากัด (มหาชน) โรงงานชลบุรี โดยมีเนื้อหาที่น่าสนใจดังต่อไปนี้
ได้รับการบรรยายพิเศษโดยคุณพันธ์ พะเนียงเวทย์ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จํากัด (มหาชน) ได้กล่าวต้อนรับบรรยายถึงประวัติความเป็นมาของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เริ่มเท้าความไปที่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่น โดยบริษัท Nissin Foods ในปี พ.ศ. 2501 ผู้คิดค้นคือ Momofuku Ando โดยมีผลิตภัณฑ์แรกคือ "Chicken Ramen" หลังจากนั้น 14 ปีผ่านมานายห้างเทียม โชควัฒนา ผู้ก่อตั้งบริษัท สหพัฒน์ มองเห็นโอกาสทางธุรกิจของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในประเทศไทย จึงได้ร่วมทุนกับบริษัท President Enterprises Corp. จากไต้หวัน ก่อตั้ง บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ขึ้นเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2515 เพื่อผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในประเทศไทย
ก่อนหน้านี้มีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอีกหลายแบรนด์แต่ด้วยรสชาติที่ถูกปาก ราคาที่เข้าถึงง่าย และการทำการตลาดอย่างต่อเนื่อง ทำให้ชื่อ "มาม่า" กลายเป็นคำสามัญที่คนไทยใช้เรียกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทุกยี่ห้อจนติดปาก
ในปี 2567 ที่ผ่านมาประเทศไทยมีอัตราการบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอยู่ที่ 55 ซองต่อคนต่อปี ติดอันดับ 9 ของโลก ซึ่งมาม่าเองก็ทำรายได้ครึ่งปีแ
รกไปกว่า 14,484 ล้านบาท กำไรเพิ่มขึ้น 494 ล้านบาท โดยกำไรส่วนใหญ่มาจาก มาม่า OK การค่อยๆขยับตำแหน่งของมาม่า OK ให้ต่อสู้กับแบรนด์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจากต่างประเทศนั้นเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างมาก เพราะผู้บริโภคจะมองมาม่าจะต้องราคาถูก จะต้องถูกมองว่าเป็นสินค้าที่มีไว้ทำให้อิ่มท้อง ไม่เน้นรสชาติ การที่จะปรับ
ภาพลักษณ์ของมาม่าให้เปลี่ยนไปจากเดิมจึงทำได้ยาก ดังนั้นจึงตัดสินใจปรับภาพลักษณ์ตัว Oriental kitchen มาเป็น มาม่า OK ขยับราคา คุณภาพเส้น รสชาติ ขนาด ให้พร้อมชนกับคู่แข่งจากต่างประเทศ โดยคุณพันธ์ได้มองว่าด้วยช่องว่างของราคาบะหมี่กึ่งฯจากต่างประเทศราคาสูงด้วยภาษีนำเข้าและค่า Gross profit margin ของห้าง จึงเป็นโอกาสที่เราจะทำราคา มาม่า OK ให้ติดตลาดได้
ช่วงต่อมาได้เข้าเยี่ยมชมกระบวนการผลิตตั้งแต่วิธีการราดน้ำซุปลงเส้นไปจนถึงการแพ็คกิ้งของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป มาม่า รสชาติหมูสับ ในรูปแบบ ซองและ มาม่าคัพ
ในช่วงสุดท้ายทาง ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ มองว่าการเติบโตไปทีละก้าวอย่างมั่นคงเป็นสิ่งที่องค์กรปฎิบัติมาตลอด ไม่มองการเติบโตอย่างก้าวกระโดดว่าเป็นโอกาส แต่มองมันเป็นความเสี่ยง การที่มาม่าขายได้กำไรน้อยมากจนชนิดที่ว่า ราคาน้ำมันปาล์มขึ้นแค่บาทเดียวแต่ทำให้ขาดทุนได้หลักสิบล้าน แต่ยังสามารถทำให้ภาพรวมมีกำไรอยู่ได้นั้นมาจากการต่อยอดจากสิ่งที่มีอยู่ให้ดีขึ้น จากใช้บรรจุภัณฑ์ โรงโม่แป้ง ถ้วยกระดาษของเราเอง ทุกสิ่งที่กล่าวมาจะทำให้เราสามารถเสาะหากำไรจุดเล็กจุดน้อย จนมันสามารถรวมเป็นสิ่งที่มีมูลค่าได้ในที่สุด