กิจกรรม On-site Visit โดยพี่เลี้ยง SCG ภายใต้โครงการ Big Brother8 ในวันที่ 18 ตุลาคม 2567 จัดกิจกรรม On-site Visit โดยพี่เลี้ยงSCG ภายใต้โครงการ Big Brother 8 โดยได้รับเกียรติจากคุณธีรพงษ์ นิลดับแก้ว Cement Plant Director-KK มาต้อนรับคณะบริษัทน้องในวันนี้
นำเสนอแนวทางดำเนินการตามแนวทาง Inclusive Green Growth ของบจก.ปูนซิเมนต์ไทย (แก่งคอย) ซึ่ง SCG ยืนยันว่าการทำเหมืองแร่หินปูนแก่งคอย จ.สระบุรี ได้ให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม และรับผิดชอบต่อชุมชน สังคม ด้วยมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบที่จะเกิดขึ้นอย่างรอบด้านในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การออกแบบเหมืองด้วยวิธีการ Semi–Open Cut ที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก โดยเว้นพื้นที่ตลอดแนวขอบเหมืองถึงร้อยละ 60 เพื่อเป็นพื้นที่สีเขียว (Buffer Zone) ซึ่งจะสามารถป้องกันและลดผลกระทบต่อชุมชนทั้งในด้านฝุ่นและเสียง ทั้งยังคงทัศนียภาพภายนอกของภูเขาไว้ให้ใกล้เคียงเดิมมากที่สุด ดำเนินการภายใต้แนวคิด “โรงงานอยู่ที่ไหน ป่าต้องเขียวที่นั่น” โดยนำแนวปฏิบัติด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนของบริษัท และแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) มาปรับใช้ในกระบวนการบริหารจัดการ พร้อมทั้งให้การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมตามข้อกำหนดของกฎหมายตลอดจนข้อปฏิบัติสากลอย่างเคร่งครัด
โครงการ “สระบุรีแซนด์บ็อกซ์”ตามที่ประเทศไทยได้ประกาศเจตนารมณ์ในการยกระดับการแก้ไขปัญหาภูมิอากาศอย่างเต็มที่ด้วยทุกวิถีทาง เพื่อบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon neutrality) ภายในปี ค.ศ. 2050 และบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ได้ในปี ค.ศ. 2065 โดยพื้นที่จังหวัดสระบุรี เป็นแหล่งอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย ถือเป็นความท้าทายในการเป็นฐานการผลิตของอุตสาหกรรมหนักและการขับเคลื่อนในรายสาขาต่างๆ (Sector) ภายใต้เป้าหมายเดียวกัน หากสามารถเปลี่ยนให้เป็นเมืองคาร์บอนต่ำได้สำเร็จ นับเป็น Saraburi Sandbox สระบุรี ต้นแบบเมืองคาร์บอนต่ำ
ในช่วงบ่ายได้มีการ On-site Visit ลงพื้นที่ดู Innovation and Technology Ceramic 3D Printer นับเป็นเทคโนโลยีเพื่อช่วยปรับปรุงกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ลดปริมาณของเสียที่เกิดขึ้นในกระบวนการผลิต สำหรับวัสดุเซรามิกเป็นเทรนด์ล่าสุดที่อยู่ในความสนใจอย่างมาก ซึ่ง 3d printing กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วและมีบทบาทสำคัญ เนื่องจากคุณสมบัติที่ดีต่าง ๆ ของเซรามิก ถูกนำมาใช้งานที่หลากหลายรวมถึงอุตสาหกรรมเคมี, เครื่องจักร, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, เครื่องบิน ยานอวกาศ
Home Building 3D Printer จึงเป็นกระบวนการที่มีการต่อยอด และพัฒนาโดยใช้หลักการพิมพ์พลาสติก 3 มิติ ซึ่งวิธีการสร้างบ้านแบบดั้งเดิมมีขั้นตอน และใช้แรงงานคนจำนวนมาก และปัจจัยอีกหลากหลายที่ส่งผลต่อต้นทุนการก่อสร้างในแต่ละครั้ง เป็นปัญหาโดยตรงต่อผู้มีรายได้น้อยที่คิดจะมีบ้าน ข้อดีของ Home Building 3D Printer นั้นถือป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในการก่อสร้าง เนื่องจากเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติจะช่วยเพิ่มความเร็วในการประมวลผล ทำให้อาคารสร้างเสร็จในเวลากำหนด ช่วยลดต้นทุนการก่อสร้าง และนำไปสู่การพัฒนาวิธีแก้ปัญหาโดยการลดจำนวนคนงานก่อสร้าง และลดอัตราความอันตรายที่จะเกิดกับผู้ปฏิบัติหน้างาน
แต่เนื่องจากต้นทุนที่สูงของเครื่องพิมพ์ 3 มิติ ความคุ้มค่าของเทคโนโลยีนี้ จำต้องขึ้นกับการผลิตเป็นจำนวนมาก จึงเหมาะสำหรับธุรกิจโครงการบ้านจัดสรร ที่ต้องการพิมพ์บ้านอยู่อาศัยชั้นเดียวจำนวนมาก ๆ ภายในเวลาจำกัด เพราะบ้านแต่ละหลังจะสามารถพิมพ์เสร็จภายในไม่กี่วัน ถือเป็นอีกหนึ่งไอเดียของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ต่อไปในอนาคต