ย่อ / ขยาย

หอการค้าไทยนำทีม 21 บริษัทพี่เลี้ยง Big Brother เสริมสร้างศักยภาพแนวทางการ Coach “Train The Ultimate Trainer”

หอการค้าไทยนำทีม 21 บริษัทพี่เลี้ยง Big Brother เสริมสร้างศักยภาพแนวทางการ Coach “Train The Ultimate Trainer” เพื่อบรรลุภารกิจให้คำปรึกษาบริษัทน้องครบทุกมิติ ตลอดจนเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทพี่เลี้ยง 

วันที่ 25 มิ.ย. 67 เวลา 14.00-18.00 น. ณ ห้อง Activity Hall หอการค้าไทย (ราชบพิธ)  เป็นการจัดกิจกรรมอบรมครั้งที่ 1 โดยทีมวิทยากรจากคุณทอปัด สุบรรณรักษ์ ผู้อํานวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ไทยแอร์เอเชียร์ จํากัด  ซึ่งเรื่องการโค้ช (Coaching) เป็นอีกเครื่องมือหนึ่งสำคัญของพี่เลี้ยงที่สามารถใช้ดึงศักยภาพและประสิทธิภาพจากบริษัทน้องได้เป็นอย่างดี รวมทั้งสามารถพัฒนาความสามารถของทีมของบริษัทน้องในการปฏิบัติงานให้ได้ตามเป้าหมายของบริษัท  

"การโค้ช (Coaching)"  คือกระบวนการทำงานร่วมกัน ซึ่งเป็นเพื่อนชวนคิด หรือปลดล๊อคบางอย่างในตัวผู้รับการโค้ช มีศักยภาพสูงขึ้น หรือมีความสุขอย่างที่เขาต้องการ ผ่านวิธีการและเครื่องมือต่างๆ  เพื่อให้ผู้รับการโค้ช ได้เรียนรู้ ตระหนักในตัวเองและเปลี่ยนแปลง และลงมือทำด้วยความคิด ความถนัด 

ก่อนการCoach เราจำเป็นต้องเข้าใจความต้องการของมนุษย์ซึ่งมี  6 ระดับ คือ

  1. ความแน่นอน มั่นคง ความปลอดภัย
  2. ความไม่แน่นอน หลากหลาย
  3. ความสำคัญ การยอมรับ
  4. ความรัก การเชื่อมโยงความสัมพันธ์
  5. การเติบโต ความสงบในจิตใจ
  6. การอุทิศตน การให้การช่วยเหลือ

และเราต้องเข้าใจความกลัว 3 ประการหลักของมนุษย์ นั่นคือ 

  • กลัวไม่ดีพอ
  • กลัวคนไม่รัก
  • กลัวไม่ได้เป็นส่วนหนึ่ง

ทักษะการโค้ช (Coaching Skill) 
ในวันนี้เราจะมีพูดถึง 2 ทักษะสำคัญที่ใช้ดึงศักยภาพและประสิทธิภาพได้เป็นอย่างดี คือ

ทักษะการสร้างความสัมพันธ์เพื่อสร้างความไว้วางใจ
      เป็นกระบวนการแรกที่จะทำให้ คนสองคนไว้วางใจกัน แล้วมีการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพระหว่างคน 2 คน พร้อมเชื่อใจและเปิดใจให้ความร่วมมือในการโค้ช การคิด และให้ความร่วมมือในการโค้ช หรือการพูดคุยเพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการพูดคุย และที่สำคัญต้องฝึกทักษะการชม 

ทักษะการฟังอย่างลึกซึ้ง 
      การฟัง เป็นทักษะการสื่อสารที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของการทำงานในปัจจุบัน เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นในองค์กรในปัจจุบันอย่างหนึ่ง คือ ฟังแล้วนำไปตีความหรือสื่อสารกัน ดังนั้นการฟังอย่างลึกซึ้ง เป็นทักษะที่สำคัญมาก เพราะการโค้ชนั้นจะใช้เวลาในการฟังถึง 80% เราต้องหาก่อนว่าอะไรคือประเด็นแท้จริง เพราะการฟังแบบโค้ชจะแตกต่างจากการฟังแบบทั่วไป การฟังแบบทั่วไปจะได้ยินสิ่งที่แสดงออกมา สิ่งที่เขาต้องการให้รู้ในเนื้อหา (Content) แต่การฟังแบบโค้ช ต้องฟังให้ถึงความรู้สึก ความคิด สามารถจับประเด็นและได้ยินในสิ่งที่ผู้รับการโค้ชไม่ได้พูดและทวนออกมาได้ (Context) เหมือนกับเป็นกระจกสะท้อนผู้รับการโค้ชได้  

Key Takeaway
      “พี่เลี้ยงทำหน้าที่เป็นกระจก แล้วบริษัทน้องเป็นผู้ส่องกระจก ให้เค้าเลือกแต่งตัวของเค้าเอง” ทักษะการโค้ช (Coaching skill)  อยู่ที่การฝึกฝน และนำไปประยุกต์ใช้กับบทบาทของพี่เลี้ยง (Mentoring) ในการสร้างความสัมพันธ์กับน้องเลี้ยง แบ่งปัน และถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ต่อไป